วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

Basic KZM 5

0097 : Basic KZM 5

http://value-visions.blogspot.com/search/label/KZM?updated-max=2013-02-04T05:10:00-08:00&max-results=20&start=12&by-date=false

สวัสดีครับ , 




วันนี้จะมาอัพ Blog ในเรื่องของ Basic KZM ต่อนะครับ

หลังจากเคยเขียนเรื่องกอง A , B ค้างไว้เมื่อนานมาแล้ว ฮ่าๆ

คราวนี้จะมาพูดถึงกอง C , D มั่งนะครับ



กอง C , D เนี่ย อย่างที่เคยบอกไว้ว่ามันคือกองกำลังหน่วยรบพิเศษ

ใช้จู่โจมและรบแบบกองโจร โดยใช้ Skill Trade ทาง Technical



A , B เปรียบเหมือน ศาสตร์ของ Money Manangment

ส่วน C , D ก็จะเป็นเด็กศิลป์ เข้า-ออก ตาม Buy-Sell Signal

โดย D ก็จะเข้าเทรดพร้อม C ( เหมือนกอง B ที่เข้าพร้อม A นั่นเอง )

โดย Signal ในการเข้าซื้อของ C , D เนี่ย ไม่จำกัดครับว่าเราจะใช้เทคนิคอะไร

เอาที่เราถนัดก็แล้วกันนะครับ บางคนอาจจะชอบ Moving Average CrossOver

หรือบางคนอาจจะใช้ MACD RSI ก็ตามสบายครับ

หรือว่าจะใช้การเทรดแบบ Multiple Indicator ก็ได้ไม่ว่ากันครับ

เพราะเราแบ่งกอง C , D เป็น Lot เล็กๆอยู่แล้ว

สัญญาณแต่ละแบบมันมาไม่พร้อมกัน

Moving อาจจะมาก่อน แล้วตามด้วย MACD ก็เข้าไปอย่างละ Lot

แบบนี้ก็ได้ครับ หรือจะใช้แบบ Multiple Timeframe ก็ได้ครับ

ตรงนี้แล้วแต่เราจะสร้างสรรค์ระบบขึ้นมาครับ



ทีนี้ลองมาดูตัวอย่างการเทรดกอง C , D ของผมนะครับ

ผมยกเป็นตัวอย่างเฉยๆนะครับ อย่าเลียนแบบเลย

เพราะผมว่า คุณทำได้ดีกว่าผมอีก เรื่องเทคนิคเคิลเนี่ย

ผมจัดว่ามึนสุดๆแล้ว กราฟเกริฟ แนวรับแนวต้านอะไรลากไม่ค่อยจะเป็นหร๊อก

ผมจะใช้ Technic 2 แบบ ก็คือ Moving Average Crossover และ P/L Indicators

แบบแรกก็คือใช้แบบ Multiple Timeframe

Moving 5 ตัด 10 , 5 ตัด 20 , 3 ตัด 18 ประมาณนี้ครับ

เวลาเราเข้าเราก็เข้าตรงจุดที่ 

5 ตัด 10 Buy 1 Lot

5 ตัด 20 Buy 1 Lot 

3 ตัด 18 Buy 1 Lot

หรือแล้วแต่ Timeframe ที่เรากำหนดไว้ครับ

แต่เวลาเข้าด้วย Timeframe ไหนก็ต้องจดไว้ทุกครั้งครับ

ว่า Lot นี้เราเข้าด้วย Timeframe อะไร จะ Exit เมื่อไหร่

การใช้ Technical แน่นอนครับว่าต้องมี Error กันบ้าง

ถ้าเจอ Error ติดดอยก็ปล่อยมันไปครับ Lot เล็กๆ ติดบ้างจะเป็นไรไป

อย่าลืมนะว่า KZM ไม่มี Cut loss เน้อ



ซึ่งการเทรดแบบ Moving Average CrossOver หรืออาจจะ Indy อื่นๆ

ผมจะใช้เป็น Offline trade ครับ คือ จะตัดสินใจซื้อขายในเวลาตลาดปิดทำการ

เพื่อพัฒนา skill trade ของผมครับ เห็นเมื่อก่อน Trainee Trader MudleyGroup รุ่นแรกๆ 

เค้าฝึกกันแบบนี้เลยฝึกมั่ง แหะๆ การฝึกแบบ Offline เหมือนการที่เราเล่น Poker

แล้วเรารู้ไพ่ในมือเรา กับไพ่บนโต๊ะอีก 3 ใน

มันอยู่ที่เราเลือกว่าเราจะ หมอบ จะ Bet หรือจะ Check

กับตลาดก็คือเรารู้ข้อมูลต่างๆ เห็นกราฟ เห็นข่าว

อยู่ที่เราเลือกเช่นกันว่าเราจะเล่นไหม หรือ Wait & See ยังไงต่อไป

ผมก็เลยใช้ตรงนี้เพื่อฝึก skill trade ของผมครับ



การเทรดอีกแบบ ผมเอาไว้ใช้เมื่อมีโอกาสดูจอ

เป็นการเทรดแบบ Online นั่นเอง

โดยผมเลือกใช้วิชา P/L indicators ที่พี่ต้านเคยสอนไว้ใน Blog และ Pantip

โดยจะเข้าซื้อจากสัญญาณราคา เช่น

ราคาเปิดอยู่ที่ 10.00 บาท

แล้วกระพริบมาที่ 10.01 บาท – Buy Signal 1

ต่อมาที่ 10.02 บาท – Buy Signal 2

10.03 – Buy Signal 3

แล้วก็เขียวมาเรื่อยๆอาจจะมาอยู่ที่ 10.10 – Buy Signal 10

จากนั้นหุ้นไม่เขียวต่อ ลงมาที่ 10.09 – ตรงนี้ถ้าเป็นพี่ต้านจะบอกให้ขายทำกำไรหมดเลย

แต่ผมขอใช้เป็นจุด Wait & See ก่อน

ของผมจะรอให้มาลงมาที่ 10.08 ก่อนผมค่อยเทหมดทุกไม้ครับ

ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะออกแบบยังไงนะครับ



นี่คือการเทรดกอง C คร่าวๆของผมนะครับ

ส่วน กอง D นั้น ให้เราพยายามหาจังหวะออกให้ได้ภายในวันครับ

แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร วันต่อๆไปก็หาจังหวะใหม่ก็ได้



จะเห็นได้ว่ากอง C , D นั้นเราค่อนข้างจะมีอิสระให้การออกแบบการเทรดครับ

พี่ต้านบอกไว้ประมาณว่า พอร์ตจะโตเร็วโตช้า 

อยู่ที่ใครใช้ C , D ได้มีประสิทธิภาพกว่ากัน

ยังไงก็ควรให้ความสำคัญกับมันเยอะๆหน่อยนะครับ

เพราะถ้าเราสร้าง Cash Flow จาก C , D ได้บ่อยๆ

A , B เราก็จะแข็งแกร่งและยึดครองพื้นที่ได้เร็วขึ้นครับ



อีกเรื่องนึงก็คือ ให้เรามอง C , D แต่ละ Lot เหมือนกระสุน 1 นัดครับ

เราต้องดูด้วยว่าเราใช้กระสุนมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

แต่ละนัดที่เรายิงออกไปนั้นมัน โดน หรือไม่

ถ้ายิงโดนบ่อยๆก็คงจะดี แต่ถ้ายิงออกไปเยอะๆ แล้วไม่โดน ( ยิงไปติดดอย )

อันนี้ก็ต้องดูว่า เรายิงพลาดเพราะอะไร



และที่สำคัญอีกอย่างนึงคือต้องไม่ Overtrade ครับ





อ้อ มีการใช้ C , D อีกแบบนึงนะครับ

นั่นคือการเล่นแบบ Zone Extra ครับ

การเล่นแบบ Zone Extra ก็ไม่มีอะไรมากครับ

คือหากเราเจอช่วงที่หุ้นลงแรงๆ ลงแรงจนหุ้นหลุดกรอบล่างของ กอง A

อาจจะหลุดไปเยอะมากๆ ถ้าเราเหลือกระสุนใน C , D

ก็สามารถเอามาเล่นเป็น A , B แทนได้ครับ

แต่ต้องกำหนดกรอบ และแบ่งโซนให้ดีๆนะครับ

เพราะ Zone Extra ที่เราเอา C , D มาเล่น นั้นเป็นเหมือนท่าไม้ตายของเราแล้ว

ต้องหวังผลชัวร์ๆเท่านั้นครับ ซึ่งถ้าเราไม่เทรดแบบยิงทิ้งยิงขว้าง

หากเจอขาลงแรงๆ สัญญาณเทคนิคคงเจอแต่ Sell Signal

เราคงไม่ได้ใช้กอง C , D เท่าไหร่ ซึ่งก็คงเหลือไว้เล่น Extra ครับ





วันนี้ก็ขอแชร์เท่านี้ก่อนนะครับ

แล้วพบกันใหม่นะครับ : )

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Basic KZM 4 จาก value-visions.blogspot.com

http://value-visions.blogspot.com/2012/12/0107-basic-kzm-4.html

เซฟไว้เผื่อเข้าไปอ่านไม่ได้ครับ

0084 : Basic KZM 4



KZM ที่ผมเทรดอยู่ตอนนี้นั้นเป็นเพียง KZM Level 1 เท่านั้นครับ
พี่ Mudley แกเคยเกริ่นเอาไว้ว่า KZM นั้นมีถึง 5 Level ด้วยกันครับ

โดยแบ่งเป็นแต่ละ Level ดังนี้ครับ

Level 1 : Zone Trading เทรดตามโซนและสะสม Unit จนครบทุกโซนจากกระแสเงินสด
Level 2 : Virus Trading คือการแบ่งกำไรจากกระแสเงินมาซื้อหุ้นแล้วเทรดตามโซน
ดึงกระแสเงินสดเข้ากระเป๋า จะหุ้นพื้นฐานหรือหุ้นปั่นก็ได้ แต่ต้องแน่ใจว่า บ.ไม่เจ๊งง่ายๆ
Level 3 : TDEX & Option เทรด TDEX คู่กับ Option สร้างกระแสเงินสดได้ทั้งสองทาง
ตรงนี้ผมเรียนได้นิดหน่อย เรื่องของการ Short Option + TDEX ครับ
แต่ลูกเล่นอื่นยังหาเรียนไม่ได้ครับ
Level 4 : ลุยตลาด Future ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นยังไง พี่ต้านแกยังไม่เคยพูดถึง
Level 5 : บุกตลาด ตปท. ยังไม่มีการพูดถึงเช่นกันครับ


โดยทั้ง 5 Level นั้นต่างก็เริ่มต้นจาก Level 1 ทั้งหมดครับ
Level 1 Zone Trading นั้นเป็นเหมือน Base Line ของการเทรดครับ
เป็นทั้งการฝึก Skill , mental , money management
รวมถึงการที่ Zone Trading นั้นสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ
ทำให้พอร์ตเราแข็งแกร่ง ไม่ตามง่ายๆนั่นเองครับ
คือ สมมุติว่าเราอาจจะพลาดเทรด Future ในส่วนของ Level 4 เจ๊ง
แต่พอร์ตเราก็ยังไม่กระทบ เพราะเราแบ่งเอากำไรจากกระแสเงินสดใน Level 1
มาเทรดนั่นเองครับ ซึ่งกำไรที่มาจาก Cash Flow เราก็สามารถ Generate
ขึ้นมาใหม่ในทุกๆวันอยู่แล้ว เพราะในกรณีที่เรามี unit ในทุกช่อง ทุกโซน
หากราคาขยับแค่ 1 ช่อง เราก็สามารถจะ Generate Cash Flow ได้ทันที
นั่นเป็นเหตุที่เราควรทำให้ Level 1 ของเราเป็นฐานที่แน่นสุดๆ
เพราะมันถือว่าเป็นจุดสำคัญที่สุดของพอร์ตเราเลยทีเดียวครับ

Basic KZM 3 จาก value-visions.blogspot.com

http://value-visions.blogspot.com/2012/12/0102-basic-kzm-3.html

เซฟไว้อ่านเผื่อ เจ้าของ blog ล็อคไม่ให้อ่านครับ

0079 : Basic KZM 3



วันนี้ผมจะมาต่อเรื่องกอง B ครับ


หลังจากดองไว้ซะนาน แหะๆ

กอง B ที่เราเรียกเล่นๆว่า หน่วยรบคุ้มกันกอง A

เอาจริงมันก็คือกองกำลังที่มีไว้ป้องกันกอง A นั่นเองครับ

ป้องกันอย่างไร ป้องกันโดยการเข้าออกให้ไว

เพื่อเอากำไรมาลดต้นทุนให้กอง A นั่นเองครับ

แต่เราจะเน้นออกในวันเพื่อฝึก skill Day Trade ของเราไปด้วยครับ



ยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะครับ สมมุติว่า…

เราเข้าซื้อหุ้นที่ 10 บาท โดยเข้าซื้อทั้งกอง A และ กอง B พร้อมกัน

จำนวนกองละ 100 หุ้น รวม 200 หุ้น เราจะมีหุ้นดังนี้

กอง A 100 หุ้น ที่ราคา 10 บาท รวมมูลค่า 1,000 บาท

กอง B 100 หุ้น ที่ราคา 10 บาท รวมมูลค่า 1,000 บาท

จากนั้นในระหว่างวันหุ้นอาจจะแกว่งขึ้นบ้างลงบ้าง

กอง B มีหน้าที่ของมันก็คือ หากว่าราคาหุ้นแกว่งขึ้นไปพอมีกำไร

จะมากจะน้อยก็แล้วแต่เรา ให้เราขายออกมาในราคาที่เราพอใจครับ

อาจจะขึ้นไป 10.2 หรือ 10.5 ก็แล้วแต่เราจะขายเลยครับ

ทีนี้ สมมุติเราขายกอง B ที่ 10.2

เราก็จะมีกำไรจากการขายกอง B 0.2 x 100 หุ้น = 20 บาท

ซึ่งเราจะเรียกกำไร 20 บาทนี้ว่า “กระแสเงินสด หรือ Cash Flow” ครับ

คำว่า Cash Flow นี้จำไว้ให้ดีนะครับ เพราะเราต้องอยู่กับมันตลอด อิอิ

จากนั้นให้เอากำไรมาหักกับต้นทุนกอง A

กอง A เราก็จะมีต้นทุน = 980 บาท

คิดแล้วตก 9.8 บาทต่อหุ้น พอทุนต่ำลง พอร์ตเราก็จะปลอดภัยขึ้นครับ : )



แต่ไอ่ 20 บาทที่ได้มานั้น ไม่ได้ให้เอาไปกินหนมนะครับ

แต่เราจะสะสมไว้เพื่อขยายโซน สะสมหุ้นจากกระแสเงินสดต่อไปเรื่อยๆครับ

ลองคิดดูว่า 20 บาทหลายๆครั้งก็กลายเป็นร้อยเป็นพันได้นะครับ

นี่คือกอง B แบบ Basic นะครับ





ขยับขึ้นมาอีกหน่อยก็คือ การเทรดกอง B แบบ ฤทธิ์มีดสั้น ( ผมบ้า ลี้ คิม ฮวง น่ะครับ หุหุ )

ซึ่งการเทรดแบบ ฤทธิ์มีดสั้น นั้นเริ่มมาจาก

พอกอง B คุ้มกันกอง A เสร็จเรียบร้อยแบบที่เล่าให้ฟังข้างบนแล้วเนี่ย

มันก็จะว่าง รอกอง A เข้าต่อสู้ ถ้า A ยังรบไม่เสร็จ ( ยังขายไม่ออก )

B ก็ไม่มีอะไรจะทำ ผมก็เลยเกิดไอเดียให้กอง B กลายเป็นหน่วยรบพิเศษกินิว เอ๊ย

หน่วยรบพิเศษ เน้นรุกเร็ว จบเร็วเช่นที่มันเคยทำมา

โดยสมมุติเมื่อกี้เรารับ B มาที่ 10 จ บาท ปล่อยไปที่ 10.20

ส่วน A นั้นอาจจะรอปล่อย 11 อะไรก็แล้วแต่ ทำให้เงินสดส่วนของ B ยังว่างอยู่

ทีนี้พอราคาแกว่งลงมาจาก 10.20 มาที่ 10 บาทอีกรอบ

ถามว่าเราจะทำอย่างไร… ก็ซื้อ B อีกรอบสิครับ!

ซื้อแล้วก็เอามาปล่อยที่ 10.20 อีกรอบ มันจะเป็นไรไป

หรือว่าถ้ารับได้ต่ำกว่า 10 บาท ก็ยิ่งดี

นี่ก็คือการทำกำไรในกอง B ของผมอีกวิธีหนึ่งครับ



สรุป การเทรดกอง B นะครับ

1. เข้าพร้อมกอง A

2. ออกเมื่อมีกำไร เน้นออกภายในวันเพื่อฝึก skill Day Trade ของเรา

3. เมื่อออกแล้วก็สามารถหาจังหวะทำกำไรใหม่ได้อีกรอบ

4. เหมือนข้อ 3 ( ทำข้อ 3 ต่อไปเรื่อยๆ )



วันนี้มีนี้ครับ หากมีตรงไหนสงสัยก็สามารถถามได้เลยนะครับ

หรือถ้าเห็นว่าผมเข้าใจตรงไหนผิดไป ได้โปรดแนะนำผมด้วยนะค้าบบ

Basic KZM 2 จาก value-visions.blogspot.com

http://value-visions.blogspot.com/2012/10/0097-basic-kzm-2.html

เซฟไว้เผื่อล็อคกระทู้จะทำให้เข้าไปอ่านไม่ได้ครับ

0074 : Basic KZM 2


เมื่อคราวที่แล้วผมพูดถึง Concept คร่าวๆของการเทรดแบบ KZM ไปแล้วนะครับ
คราวนี้ผมจะมาต่อในเรื่องของ " กอง A "  ซึ่งถือเป็นกองกำลังหลักของโมเดลครับ
กอง A อย่างที่บอกเอาไว้ในคราวที่แล้วว่า
กอง A มีหน้าที่ เป็นกองกำลังหลัก โดยจะรบแบบยึดครองพื้นที่ ( Zone Trading )
และก็มีหน้าที่อีอย่างก็คือ เพื่อให้เราได้ฝึก " วินัย " ในการเทรดนั่นเอง

เริ่มแรกในการ Set กอง A นะครับ
เริ่มจากการที่เราต้องรู้ก่อนว่า เรามีงบประมาณในการรบเท่าไหร่ ?
เอ๊ะ หลายคนอาจจะงงว่า งบประมาณในการรบอะไรของแก ?
งบประมาณในการรบ ก็คือ เงินในหน้าตักของเรานั่นเองครับ

สมมุติว่าเรามีเงิน 100,000 บาท
ถ้าเอามาเทรดแบบ KZM ก็จะแบ่งเงินก้อนนี้เป็น 4 ส่วน สำหรับกองกำลัง 4 กองของเรา
ก็ตกอยู่ กองละ 25,000 บาทครับ

25,000 บาท นั่นคืองบประมาณการรบของแต่ละกองนั่นเองครับ

ที่นี้เราก็เอา จำนวนเงิน 25,000 บาท
มาคำนวนดูว่า จากจุดที่ราคาหุ้นต่ำสุดไปหาสูงสุด
เราจะเอาเงิน 25,000 นี้มาเล่นอย่างไร ให้เล่นได้ตลอด
ไม่มีเงินหมดหน้าตัก ไม่มีหุ้นหมดมือ
เทรดสร้างระแสเงินสดแฝงไปอีกนานเท่านาน

เราก็แบ่งโซนสิครับ
จากราคาหุ้นตั้งแต่จุดที่เราคิดว่าต่ำที่สุด ไปหาสูงที่สุด
25,000 บาทนี้ จะซื้อหุ้นได้ทั้งหมดกี่ไม้

สมมุติได้ 100 ไม้
เราก็จะแบ่งโซนที่ราคาต่ำสุดไปจนถึงโซนสูงสุด ดังนี้ครับ
ราคา 1.01 - 1.05 บาท เราก็จะเรียกโซนนี้ว่าโซน A1
ราคา 1.06 - 1.10 บาท คือ โซน A2
ราคา 1.11 - 1.15 บาท คือ โซน A3
...ไปเรื่อยๆจนถึงช่วงราคาที่เราคิดว่าสูงสุด
( เผื่อไว้สำหรับ New High ที่เราคาดไม่ถึงสักนิดก็ได้นะครับ )

ที่ต้องแบ่งโซนก็เพื่อเป็นการเทรดแบบค่อยๆยึดครองพื้นที่ไปทีละส่วน
โดยไม่เสี่ยงครับ เรียกว่ามี Money Management นั่นเอง
เสี่ยงทีละน้อย เข้าซื้อเป็น Unit ที่เล็กๆ เวลาเราคิดผิดเราจะไม่เจ็บตัวครับ
พอถูกขึ้นมาก็ค่อยซื้อเพิ่ม เสี่ยงเพิ่ม ยังไง จริงไหมครับ


ทีนี้เวลาเราเข้าซื้อ เราก็จะเข้าซื้อ " โซนละ 1 ไม้ " ก่อนครับ
เช่น สำหรับผม ผมมักจะกำหนดไว้ว่าผมจะจะซื้อแต่ไม้กลางโซน
คือ ที่ราคาที่ลงท้ายด้วย 3 กับ 8 เช่น
ซื้อที่ 1.03 จำนวน 100 หุ้น เป็นโซน A1
ซื้อที่ 1.08 จำนวน 100 หุ้น เป็นโซน A2
ไปเรื่อยๆครับ

แล้วพอเรารับหุ้นเข้าโซน ก็ต้องมีการ Generate CashFlow
สร้างกระแสเงินสด เพื่อเป็นรายได้ให้พอร์ตใช่ไหมครับ
เราจะ Generate CashFlow โดยการขายเมื่อข้ามโซนครับ
อย่าง A1 ผมซื้อที่ 1.03 บาท ผมก็จะไปปล่อยที่ 1.13 บาท ( ปล่อยเมื่อราคาหุ้นวิ่งข้ามไปโซน 3 )

แล้วพอตลาด Swing ลงมาที่ 1.03 อีกรอบ
ผมก็เก็บหุ้นเข้าโซน A1 ใหม่
ถ้าไปที่ 1.13 ผมก็ปล่อยไปเพื่อเก็บ CashFlow
หากเจอตลาด Sideway นานๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อนครับ


การเทรดแบบ KZM นั่น เราเริ่มต้นเทรดเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะ ไม่ว่าหุ้นจะไปทางไหน เราก็มีแผนรับมือไว้หมดแล้ว

เช่น เราอาจจะเข้าในราคาที่สูงหน่อย
เอาสักราคา  1.88  ก็แล้วกัน โดยที่เราซื้อ 100 หุ้น
ถ้าลงไป 1.83 , 1.78 เราก็รับเพิ่มไม้ละ 100 หุ้น
หากมัน Swing ขึ้นก็เทรดตามโซนเบกระแสเงินสด
ต้นทุนของหุ้นในมือเราที่เหลือก็จะต่ำลงด้วยครับ

แล้วถ้าหุ้นลงมากๆ จนนิ่งแล้วเริ่มกลับตัว หรือ หุ้นทำท่าว่าจะวิ่ง
เราก็สามารถซื้อรวบโซนบนๆไว้ ในราคาต่ำ ก็ได้ครับ
เช่น ราคาหุ้นอยู่ที่ 1.03 เราก็ซื้อ 1.03 รวบไว้เลย 10 ไม้
ก็เป็นจำนวน 1,000 หุ้น สำหรับเล่นในโซน A1 - A10 ได้เลยครับ
นี่ก็เป็นเทคนิคลูกเล่นอีกแบบของ KZM ครับ


แล้วพวกกระแสเงินสดที่เราทำได้จาก Zone Trading
พอได้มากๆเข้าเราก็จะเอามาขยายโซนครับ
เช่น A1 ปกติเราซื้อไม้ 100 หุ้นที่ 1.03
เราก็จะเอากระแสเงินสดมาซื้อเพิ่มที่ 1.02 หรือ 1.04 อีกไม้ละ 100 ก็ได้ครับ
ที่นี้พอเรามีหุ้นครบทุกช่องในโซน เช่น
1.01 ไม้ละ 100
1.02 ไม้ละ 100
1.03 ไม้ละ 100
1.04 ไม้ละ 100
...   เราแทบจะสร้างกระแสเงินสดได้ทุกวันเลยครับ
จากนั้นก็เอากระแสเงินสดที่ได้ มาเพิ่มจำนวนหุ้นในแต่ละช่อง
จาก 100 หุ้น ก็เพิ่มเป็น 200 , 300 , 400 , 1,000 , 10,000
ลองจินตนาการดูว่า CashFlow ที่ได้มันจะขนาดไหนกันครับ ?
เรียกได้ว่ากอง A จะกลายเป็นเครื่องปั้มเงินหลักของเราเลยทีเดียวครับ

 

กอง A เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้อยู่นะครับ
ถ้านึกอะไรออกก็จะมาเพิ่มเติมในตอนหน้าครับ
ตอนหน้าจะมาพูดถึง กอง B คู่ กองกำลังป้องกันกอง A ครับ

Basic KZM จาก value-visions.blogspot.com

http://value-visions.blogspot.com/2012/10/0096-basic-kzm.html

เซฟไว้ผื่อ กระทู้ล็อคไม่ให้เข้าอ่านครับ

0073 : Basic KZM



วันนี้ผมจะมาพูดถึงการเทรดแบบ KZM แบบ Basic นะครับ
ซึ่งเจ้าตำหรับการเทรดแบบนี้ก็คือพี่ต้าน Mudley Group นั่นเอง
ซึ่งผมเองก็อาศัยเรียนรู้จากสิ่งที่พี่ Mudley เค้าได้เผยแพร่ไว้
ตาม Pantip หรือใน Blog ของพี่เค้าครับ

การเทรด KZM นั้น หากเรามองผิวเผินอาจจะดูเหมือนยุ่งยาก
เพราะมีตั้ง 4 กอง แถมยังให้แบ่งการเข้าซื้อเป็น Unit ย่อยอีก
ซึ่งอันที่จริงแล้วหากเราตั้งใจมองและทำความเข้าใจดีๆ
เราจะพบว่าการเทรดแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่เราคิดเลยครับ
ตรงกันข้าม มันกลับง่ายมากๆด้วย ง่ายจนผมเอาไปสอนแฟนผม
เค้าเข้าใจ concept ใน 5 นาทีด้วยซ้ำ

ก่อนอื่นต้องแนะนำก่อนว่า KZM คืออะไร
KZM ย่อมาจาก Killer Zone Model by MudleyGroup ครับ ยาวม่ะ : )
อันที่จริงมันคือการเทรดแบบ Fraction Trading ซึ่งพี่ Mudley
เค้าอธิบายว่ามันคือ "การต่อสู้โดยสัดส่วน"
เหมือนตลาดหุ้นเป็นสงคราม
ตัวนักลงทุนแต่ละคนก็คือแม่ทัพ
เงินของนักลงทุนแต่ละคนก็คือกองทัพ
การต่อสู้โดยสัดส่วน ็คือ การแบ่งเงินของเราเป็นส่วนย่อยๆ
เหมือนเป็นกองทัพเล็กๆ เพื่อส่งไปต่อสู้กับกองทัพของคนอื่น
( เช่น นลท. สถาบัน , นลท. ต่างประเทศ ) ในสถานการณ์ต่างๆ
โดยเงินที่เราแบ่งไว้เป็นส่วนย่อยๆ จะเรียกว่า "กอง"
แต่ละ "กอง" ก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไป

พี่ Mudley เค้าจะให้แบ่งเงิน เป็น 4 กอง เท่าๆกัน นะครับ ดังนี้ครับ
กอง A   เป็นกองกำลังหลัก ( Zone Trading )
กอง B   เป็นหน่วยรบคุ้มกันกอง A ( Day Trade )
กอง C   เป็นหน่วยรบแบบกองโจร ( Technical Trading )
กอง D   เป็นหน่วยอารักขากองโจร ( Day Trading )

โดยทั้ง 4 กอง ก็จะมีหน้าที่ต่างกัน บทบาทต่างกัน
และแต่ละกองยังช่วยฝึกฝน Skill ในการเทรดให้กับเรา ดังนี้ครับ

กอง A ช่วยฝึกเรื่องวินัยในการเทรด ( เทรดตามโซน )
กอง B เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร ใน Zone
กอง C เป็นการฝึกอ่านกราฟ เทคนิคคัล Skill รวมทั้ง Trading Skill
กอง D เป็นการฝึกสัญชาติญาณในการเทรด ในการหาจุดออกทำกำไร

ครั้งต่อไปผมจะมาพูดเจาะลงไปในแต่ละกอง ทีละกองนะครับ

อ้อ ผมลืมพูดถึงเรื่องวัตถุประสงค์ของ KZM
KZM นั้นพี่ต้ามเค้าออกแบบมาเพื่อให้อยู่รอดในตลาด
แม้ว่าจะเจอสถานการณ์ร้ายเพียงใด ก็จะสามารถอยู่รอดได้
ออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสเงินสดครับ
แล้วก็เอากำไรในรูปกระแสเงินสดเนี่ย ไปต่อยอดอย่างอื่น
พี่ต้านให้ใช้แค่ครรึ่งนึงของกำไร ไปลงทุนแบบอื่นๆที่หวังผลตอบแทนมากๆ
อาจจะ KZM กับหุ้นปั่น ( เรียกว่า Virus Trading ) เพื่อเร่งกระแสเงินสด
ไม่ก็ Bet Unexpect Event กับพวก Call หรือ Put Option
หรือเก็งกำไรอย่างอื่นที่เราถนัดครับ เพราะถึงจะพลาด เราก็จะพลาดแค่กำไร
ไม่เกี่ยวกับทุนของเราครับ เพราะเราเอาแค่กำไรส่วนนึงมาเสี่ยง

นี่คือ KZM Basic Level 1 นะครับ
ซึ่งจริงๆแล้วพี่ต้านให้เทรดกับพวก ETF เท่านั้น
( แต่ผมแอบเอามาใช้กับหุ้น แหะๆ )
สาเหตุที่ให้เทรดกับ ETF ก็เพราะว่า ETF โอกาสเจ๊งน้อยมากๆๆๆ
ไม่ว่าตลาดจะถล่มยังไง หุ้นเจ๊งไปตัว ก็จะมีตัวอื่นที่เข้ามาใน ETF แทน
( เช่น SET50 เจ๊งไปตัวก็เหลือ 49 เสร็จก็มีตัวอื่นมาแทนให้ครบ 50 )
Level อื่นเด๋วค่อยพูดถึงก็แล้วกันนะครับ ผมก็เรียนถึง Level 2 อยู่เบยยยย > <

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

คลังกระทู้ห้องสินธร DSM KZM และอื่นๆ เริ่มปี 47

เริ่มต้นตำนานกระทู้คือ โพส
I2926119 คุณเด่นศรีทำไมว่า Rich Dad....... [คลับเพื่ออิสรภาพทางการเงิน] อาซ้อสี่ (386 - 22 ก.ค. 47 21:23)

คลังกระทู้ คลับอิสระภาพทางการเงิน ห้องสินธร
http://2g.pantip.com/cafe/sinthorn/topicstockI.php?subgroup=6&page=2

ตัวอย่างคลังกระทู้